ห่างไกลน้ำตาล....หวานอันตราย

1323 Views  | 

ห่างไกลน้ำตาล....หวานอันตราย

ห่างไกลน้ำตาล....หวานอันตราย

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความหวานจากน้ำตาลทำให้รสชาติของอาหารและเครื่องดื่มอร่อยยิ่งขึ้น ไม่ว่าเราจะทานอาหารหรือเครื่องดื่มประเภทใด น้ำตาลก็จะเข้ามาเป็นองค์ประกอบเสมอ โดยในหนึ่งวันคนเราทานน้ำตาลเข้าไปในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกายโดยไม่รู้ตัว เราแทบจะไม่เคยควบคุมหรือคิดคำนวนปริมาณการทานน้ำตาลในแต่ละวันด้วยซ้ำ

หากไม่มีสัญญาณการเจ็บป่วยบอกให้เรารู้ว่า เราควรควบคุมหรือจำกัดปริมาณการทานน้ำตาลเข้าไปในร่างกาย

ทุกครั้งที่เรารับประทานน้ำตาลมากไป น้ำตาลจะกลายเป็นตัวกระตุ้นให้ไขมันที่เรากินเข้าไปนั้น เกิดการสะสมได้ง่ายขึ้น สกัดกั้นการนำไขมันไปใช้งานได้ตามธรรมชาติ จนเกิดการสะสมของไขมันได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้เสี่ยงต่อโรคอ้วน และเกิดเป็นไขมันสะสมตามจุดต่างๆ ได้ในอนาคต

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก แนะนำให้คนรับประทานน้ำตาลแค่วันละ 6 ช้อนชา (หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงโรคเบาหวาน แต่จากการสำรวจของกรมอนามัย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า คนไทยบริโภคน้ำตาลมากถึงวันละ 20 ช้อนชา เกินกว่าปริมาณแนะนำถึง 3 เท่า โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ชอบดื่มน้ำอัดลมวันละหลายขวด หลายกระป๋อง

นอกจากความหวานเสี่ยงต่อโรคเบาหวานแล้วยังมีโรคอื่นๆตามมาอีกมากมายนั่นก็คือ

  • โรคหัวใจ
  • โรคภาวะจอประสาทตาเสื่อม
  • ไตเสื่อม
  • หลอดเลือดหัวใจตีบ

โดยเครื่องดื่มที่คนทั่วไปนิยมดื่มในชีวิตประจำวันนั้น มีปริมาณน้ำตาลดังนี้

  • น้ำอัดลม มีน้ำตาลประมาณ 6 ช้อน
  • กาแฟ มีน้ำตาลประมาณ 9 ช้อน
  • ชานมไข่มุก มีน้ำตาลประมาณ 11 ช้อน

จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในเครื่องดื่ม มีปริมาณเกินกว่าที่ร่างการต้องการมาก

เรามีวิธีลดความหวานจากน้ำตาลทำได้โดย

  1. เลือกทานความหวานจากธรรมชาติ
    เช่น การทานผลไม้แทนขนมหวาน เพราะในผลไม้จะมีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่าน้ำตาลที่อยู่ในขนม ประโยชน์จากผลไม้ยังมีมากมาย เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ เป็นต้น แถมเป็นการควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย

  2. ควบคุมอาหาร
    เลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ คือ เนื้อสัตว์ นม ไข่ ผัก และรับประทานอาหารจำพวกน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสม ทานข้าวกล้องแทนข้าวขาวเนื่องจากข้าวขาวมีดัชนีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าข้าวกล้อง ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการทานข้าวขาว

  3. ปรุงอาหารด้วยรสชาติไม่จัด
    โดยทั่วไปส่วนผสมที่นำมาใช้ประกอบอาหารมักจะมีรสชาติในตัวของมันอยู่แล้ว หากเราลองปรับวิธีการประกอบอาหารที่มีรสชาติไม่จัดมาก ลดการเติมเครื่องปรุงที่มีรสจัดต่างๆ เช่น รสเค็ม เผ็ด รสหวานจัด เพราะการรับประทานอาหารรสจัดส่งผลเสียต่อสุขภาพอื่นๆ ได้เช่นกัน เช่น โรคไต กระเพาะอักเสบ เป็นต้น

  4. เลือกที่จะดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
    ลองปรับการดื่มเปล่าแทนการดื่มเครื่องดื่มประเภท น้ำอัดลม น้ำหวาน ชาไข่มุก ชา กาแฟ เป็นต้น การดื่มน้ำเปล่าวันละ 8 แก้วจะเป็นประโยชน์กับร่างกายมากกว่าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล โดยช่วงแรกอาจลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลลงทีละน้อย จนกระทั่งสามารถดื่มน้ำเปล่าทดแทนได้

  5. พักผ่อนให้เพียงพอ

สาเหตุของการทานอาหารในปริมาณมาก เนื่องจากการนอนน้อยทำให้ร่างกายอยากอาหารเพื่อไปชดเชย โดยเฉพาะความหวานที่ลดความเหนื่อยล้าและอาการง่วงได้

ลองเปลี่ยนวิธีการนอนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ไม่กินจุ หรือทานอาหารที่มีรสหวานจัดเกินไป อาจจะเป็นเรื่องยากในการที่จะลดหรือหลีกเลี่ยงน้ำตาล แต่หากเราสามารถปฏิบัติได้ก็จะทำให้ร่างกายเกิดสมดุล ห่างไกลโรคต่างๆ รวมทั้งการมีรูปร่างที่ดีด้วย

Powered by MakeWebEasy.com
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  and  Cookies Policy