ห่างไกลน้ำตาล....หวานอันตราย

1005 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ห่างไกลน้ำตาล....หวานอันตราย

ห่างไกลน้ำตาล....หวานอันตราย

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความหวานจากน้ำตาลทำให้รสชาติของอาหารและเครื่องดื่มอร่อยยิ่งขึ้น ไม่ว่าเราจะทานอาหารหรือเครื่องดื่มประเภทใด น้ำตาลก็จะเข้ามาเป็นองค์ประกอบเสมอ โดยในหนึ่งวันคนเราทานน้ำตาลเข้าไปในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกายโดยไม่รู้ตัว เราแทบจะไม่เคยควบคุมหรือคิดคำนวนปริมาณการทานน้ำตาลในแต่ละวันด้วยซ้ำ

หากไม่มีสัญญาณการเจ็บป่วยบอกให้เรารู้ว่า เราควรควบคุมหรือจำกัดปริมาณการทานน้ำตาลเข้าไปในร่างกาย

ทุกครั้งที่เรารับประทานน้ำตาลมากไป น้ำตาลจะกลายเป็นตัวกระตุ้นให้ไขมันที่เรากินเข้าไปนั้น เกิดการสะสมได้ง่ายขึ้น สกัดกั้นการนำไขมันไปใช้งานได้ตามธรรมชาติ จนเกิดการสะสมของไขมันได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้เสี่ยงต่อโรคอ้วน และเกิดเป็นไขมันสะสมตามจุดต่างๆ ได้ในอนาคต

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก แนะนำให้คนรับประทานน้ำตาลแค่วันละ 6 ช้อนชา (หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงโรคเบาหวาน แต่จากการสำรวจของกรมอนามัย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า คนไทยบริโภคน้ำตาลมากถึงวันละ 20 ช้อนชา เกินกว่าปริมาณแนะนำถึง 3 เท่า โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ชอบดื่มน้ำอัดลมวันละหลายขวด หลายกระป๋อง

นอกจากความหวานเสี่ยงต่อโรคเบาหวานแล้วยังมีโรคอื่นๆตามมาอีกมากมายนั่นก็คือ

  • โรคหัวใจ
  • โรคภาวะจอประสาทตาเสื่อม
  • ไตเสื่อม
  • หลอดเลือดหัวใจตีบ

โดยเครื่องดื่มที่คนทั่วไปนิยมดื่มในชีวิตประจำวันนั้น มีปริมาณน้ำตาลดังนี้

  • น้ำอัดลม มีน้ำตาลประมาณ 6 ช้อน
  • กาแฟ มีน้ำตาลประมาณ 9 ช้อน
  • ชานมไข่มุก มีน้ำตาลประมาณ 11 ช้อน

จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในเครื่องดื่ม มีปริมาณเกินกว่าที่ร่างการต้องการมาก

เรามีวิธีลดความหวานจากน้ำตาลทำได้โดย

  1. เลือกทานความหวานจากธรรมชาติ
    เช่น การทานผลไม้แทนขนมหวาน เพราะในผลไม้จะมีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่าน้ำตาลที่อยู่ในขนม ประโยชน์จากผลไม้ยังมีมากมาย เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ เป็นต้น แถมเป็นการควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย

  2. ควบคุมอาหาร
    เลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ คือ เนื้อสัตว์ นม ไข่ ผัก และรับประทานอาหารจำพวกน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสม ทานข้าวกล้องแทนข้าวขาวเนื่องจากข้าวขาวมีดัชนีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าข้าวกล้อง ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการทานข้าวขาว

  3. ปรุงอาหารด้วยรสชาติไม่จัด
    โดยทั่วไปส่วนผสมที่นำมาใช้ประกอบอาหารมักจะมีรสชาติในตัวของมันอยู่แล้ว หากเราลองปรับวิธีการประกอบอาหารที่มีรสชาติไม่จัดมาก ลดการเติมเครื่องปรุงที่มีรสจัดต่างๆ เช่น รสเค็ม เผ็ด รสหวานจัด เพราะการรับประทานอาหารรสจัดส่งผลเสียต่อสุขภาพอื่นๆ ได้เช่นกัน เช่น โรคไต กระเพาะอักเสบ เป็นต้น

  4. เลือกที่จะดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
    ลองปรับการดื่มเปล่าแทนการดื่มเครื่องดื่มประเภท น้ำอัดลม น้ำหวาน ชาไข่มุก ชา กาแฟ เป็นต้น การดื่มน้ำเปล่าวันละ 8 แก้วจะเป็นประโยชน์กับร่างกายมากกว่าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล โดยช่วงแรกอาจลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลลงทีละน้อย จนกระทั่งสามารถดื่มน้ำเปล่าทดแทนได้

  5. พักผ่อนให้เพียงพอ

สาเหตุของการทานอาหารในปริมาณมาก เนื่องจากการนอนน้อยทำให้ร่างกายอยากอาหารเพื่อไปชดเชย โดยเฉพาะความหวานที่ลดความเหนื่อยล้าและอาการง่วงได้

ลองเปลี่ยนวิธีการนอนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ไม่กินจุ หรือทานอาหารที่มีรสหวานจัดเกินไป อาจจะเป็นเรื่องยากในการที่จะลดหรือหลีกเลี่ยงน้ำตาล แต่หากเราสามารถปฏิบัติได้ก็จะทำให้ร่างกายเกิดสมดุล ห่างไกลโรคต่างๆ รวมทั้งการมีรูปร่างที่ดีด้วย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้